
Dental Services
บริการทางทันตกรรม
BRACES

ทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟัน เป็นทันตกรรมสาขาหนึ่ง ซึ่งให้ความสำคัญกับการเรียงตัวของฟัน เนื่องจากฟันที่เรียงอย่างไม่เป็นระเบียบนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อรูปหน้า ประสิทธิภาพและวิธีการบดเคี้ยว และความสะดวกในการดูแลรักษาความสะอาดฟัน ซึ่งปัญหาต่างๆที่ควรเข้ารับการจัดฟันมีดังนี้ฟันเก (Over Crowding) | ภาวะสบลึก (Deep overbite) | ภาวะสบเปิดหรือการสบฟันหน้าไม่สนิท (Open bite) | ขากรรไกรบนยื่น (Overjet) | ขากรรไกรล่างยื่น (Under-bite) | การสบฟันแบบไขว้ (Cross-bite Occlusion) | ช่องว่างระหว่างฟัน ทันตแพทย์จัดฟัน จะสามารถออกแบบ วางแผนในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของฟันให้สามารถเลื่อนมายังตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสมได้ ดังนั้นผู้เข้ารับบริการจึงสามารถมีฟันที่เรียงอย่างสวยงาม และประสิทธิภาพด้านการบดเคี้ยวอีกด้วย
ประเภทของการจัดฟัน
การจัดฟันสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
การจัดฟันแบบติดแน่น ได้แก่
- การจัดฟันด้วยเครื่องมือโลหะ (Metal Braces)
- การจัดฟันด้วยเครื่องมือเซรามิก (Ceramic Braces)
- การจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon หรือ Clarity SL
- การจัดฟันด้านใน (lingual)
การจัดฟันแบบถอดได้ ได้แก่
- การจัดฟันแบบใส Invisalign
- การจัดฟันแบบใส Clear Aligner
ข้อดีของการจัดฟัน
- เพื่อความสวยงามและเพื่อบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ฟันดูสวยงาม ยิ้มสวยมากขึ้น เพื่อให้ฟันทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการสบฟันที่ดีขึ้น และเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม
- เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากและฟัน เพราะหากมีปัญหาฟันซ้อนเก ฟันยื่น ฯลฯ จะทำให้การทำความสะอาดฟันเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง และมักเกิดปัญหาฟันผุตามมา เมื่อจัดฟันให้เข้าที่เข้าทางแล้ว การทำความสะอาดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้
- ช่วยลดการมีกลิ่นปาก เนื่องจากการแปรงฟันไม่สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ
- บางคนจัดฟันแล้วนิสัยรักษาความสะอาดและความมีระเบียบวินัยจะมีมากขึ้นจนติดเป็นนิสัย
- ในบางรายจัดแล้วโครงหน้าอาจเข้ารูปและดูดีมากขึ้น ปากไม่อูม ปิดปากได้สนิทเพราะฟันไม่ยื่นเหยิน
- ช่วยปรับนิสัยการรับประทานอาหารทางอ้อม ไม่กัดของแข็ง ไม่กัดเล็บ
- ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันห่างหรือฟันมีลักษณะการสบฟันหน้าแบบสบเปิด (กัดเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ขาด) หลังจัดฟันเสร็จแล้ว จะช่วยให้มีการออกเสียงพูดได้ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้น
ข้อเสียของการจัดฟัน
- การจัดฟันส่วนใหญ่มักมีค่าใช้จ่ายสูง
- ในบางรายต้องถอนฟัน (สมบูรณ์) ออกไปหลายซี่
- ตึงฟัน เจ็บฟันในช่วงแรกๆของการปรับเครื่องมือ
- ใช้เวลานานกว่าฟันจะเริ่มเข้าที่อย่างน้อยประมาณ 2 ปี
- ในขณะติดเครื่องมือจัดฟันจะทำความสะอาดฟันได้ยาก และเสี่ยงต่อฟันผุได้ถ้าไม่ดูแลอาหารอาจติดเหล็กจัดฟันได้บ่อย
- พูดไม่ชัดบ้างในระยะแรกหลังการจัดฟัน
- บางรายอาจรู้สึกว่าฟันอ่อนแอมาก เคี้ยวอะไรแข็ง ๆ ไม่ได้
- ต้องใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันไปนานหลายปีหรือตลอดไปเพื่อคงสภาพการเรียงตัวของฟัน
- ต้องไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ
ขั้นตอนการจัดฟัน
- ในขั้นตอนการจัดฟันทั่วไป ก่อนอื่นผู้เข้ารับบริการจะต้องทำการนัดหมายทันตแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาและวางแผนในการรักษา
- ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์แบบฟัน เพื่อบันทึกรายละเอียด ตรวจสภาพการสบฟัน และมีการเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างของใบหน้าและขากรรไกร
- ตรวจฟันก่อนว่าจะต้องทำการรักษาฟันก่อนหรือไม่ เช่น ถอนฟัน อุดฟัน รักษาโรคเหงือก รากฟัน ฯลฯ เพราะจำเป็นต้องรักษาให้หายก่อนใส่เครื่องมือจัดฟัน
- ฟังคำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ และตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน
- ทันตแพทย์จะติดเครื่องมือจัดฟันให้ ในช่วงแรกจะรู้สึกเจ็บบ้าง (ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดฟันด้วย) แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์
การดูแลรักษาหลังการจัดฟัน
- หลีกเลี่ยงการกัดของแข็งเนื่องจากจะทำให้เครื่องมือที่ทันตแพทย์ติดให้หลุดได้และทำให้ประสิทธิภาพของการจัดฟันลดลง
- ทำความสะอาดฟันและเหงือก ขณะที่มีเครื่องมือจัดฟันอยู่ในช่องปาก หลังทานอาหารก็มักจะมีเศษอาหารติดตามซอกเหล็กจัดฟัน วิธีแก้ง่ายๆ ก็คือให้แปรงฟันทุกครั้งหลัง และใช้แปรงซอกฟันทำความสะอาดระหว่างซี่ นอกจากนี้ยังต้องใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย วันละ 1 ครั้งก่อนนอน โดยร้อยไหมเข้าไปใต้ลวดก่อนแล้วค่อยใช้ผ่านซอกฟัน
- ถ้าเครื่องมือระคายเคืองทำให้เกิดแผลที่แก้มให้ใช้ขี้ผึ้งจากทันตแพทย์ปิดที่เครื่องมือจุดที่ทำให้เป็นแผล โดยเช็ดบริเวณที่จะติดขี้ผึ้งให้แห้งก่อน แล้วปั้นขี้ผึ้งเป็นก้อนไปติดบริเวณเหล็กที่ระคายเคือง ก่อนทานอาหารให้แกะขี้ผึ้งก่อน แต่ถ้าเผลอกลืนลงไปก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะไม่มีอันตราย
- ควรมารับการรักษาตามเวลาที่ทันตแพทย์นัดอย่างต่อเนื่องเนื่องจากงานจัดฟันเป็นงานที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปสู่ตำแหน่งที่แม่นยำ การไม่มาตามนัดหรือขาดการติดต่อกับทันตแพทย์เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดผลเสียได้ดังนั้นการมาพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
- ควรได้รับการตรวจสภาพฟัน เช่น ฟันผุ ขูดหินปูน ทุก 6 เดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะระหว่างจัดฟันถ้าทำความสะอาดไม่ดีฟันจะมีปัญหาได้ง่ายกว่าปกติ
- หากเครื่องมือหลุดหรือเคลื่อนตำแหน่ง ให้รีบกลับมาติดต่อทันตแพทย์ที่รักษาทันที
การจัดฟันด้วยเครื่องมือชนิดโลหะ
เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มักเห็นกันได้ตามทั่วไป โดยใช้เครื่องมือที่ทำจากวัสดุโลหะที่มีคุณภาพ ใช้ติดด้านนอกของผิวฟันด้านหน้า และมีการเปลี่ยนยางทุกเดือนเนื่องจากหมดอายุการใช้งาน และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้จัดฟันทั่วไป เนื่องจากยางนั้นสามารถเปลี่ยนสีได้ และปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องมือ ทำให้มีขนาดเล็กลงและมีความหลากหลายของสียางมากขึ้นอีกด้วย ทำให้เราสามารถพบเห็นการจัดฟันแบบนี้ได้ ในกลุ่มคนไข้ทั่วไปที่ต้องการสีสันของยาง และไม่มีปัญหาในการที่คนอื่นสามารถมองเห็นการจัดฟันของตนได้
ข้อดีของการจัดฟันด้านนอกแบบโลหะ
- สามารถจัดฟันได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันยื่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันกัดเบี้ยว ฟันกัดคร่อม ฟันสบลึก ฟันสบเปิด หรือฟันล้มระเนระนาดข้างใน ฯลฯ ลวดเหล็กก็สามารถดึงได้หมด
- มีราคาย่อมเยาและสามารถผ่อนชำระได้
- สามารถเลือกสีของยางจัดฟันได้ตามต้องการ
ข้อเสียของการจัดฟันด้านนอกแบบโลหะ
- บุคคลอื่นสามารถเห็นเครื่องมือในการจัดฟันได้อย่างชัดเจน
- ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันแล้วเสร็จค่อนข้างนาน คือ ประมาณ 2 ปีขึ้นไป
- หากทำความสะอาดไม่ดี อาจทำให้ฟันผุได้ ซึ่งมักจะผุบริเวณรอบ ๆ เหล็ก
- ในระยะแรกส่วนของแก้มและริมฝีปากอาจระคายเคืองได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 1-4 สัปดาห์ ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ระยะเวลาในการรักษา
โดยปกติแล้ว จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีขึ้นไป ในการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพฟัน และโครงสร้างฟันของแต่ละคน ดังนั้นระยะเวลาจึงอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้กำหนดและดูแลเรื่องนี้รวมถึงความร่วมมือของคนไข้ในการมาพบทันตแพทย์เป็นประจำ ร่วมกับปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
การจัดฟันด้วยเครื่องมือเซรามิก (Ceramic Braces)

เป็นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือแบบใสไว้ที่ผิวฟันด้านหน้า และมักใช้ยางสีใสรัดเข้ากับเครื่องมือ เพื่อทำการเคลื่อนและเรียงฟันให้สวยงาม เครื่องมือนี้จะมีความใสมาก ไม่เป็นที่สังเกต ทำให้คุณยิ้มได้อย่างมั่นใจระหว่างจัดฟัน การจัดฟันชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่อยากให้คนสังเกตเห็นชัดเจน
ข้อดีของการจัดฟันด้วยเครื่องมือเซรามิก
- สีของวัสดุที่เป็นเซรามิกจะมีสีกลมกลืนเข้ากับสีของฟัน เมื่อดูเผิน ๆ จะไม่ทันสังเกตเห็นได้
ข้อเสียการจัดฟันด้วยเครื่องมือเซรามิก
- มีราคาแพงกว่าการจัดฟันแบบธรรมดา
- ตัววัสดุอาจเปราะและแตกหักได้ง่ายเมื่อเทียบกับวัสดุแบบโลหะ
- ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันแล้วเสร็จค่อนข้างนาน คือ ประมาณ 2 ปีขึ้นไป
ระยะเวลาในการรักษา
โดยปกติแล้ว จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีขึ้นไป ในการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพฟัน และโครงสร้างฟันของแต่ละคน ดังนั้นระยะเวลาจึงอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้กำหนดและดูแลเรื่องนี้
การจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon หรือ Clarity SL

เป็นเครื่องมือที่ไม่ต้องใส่ยางรัดฟัน ทำให้การเคลื่อนฟันทำได้เร็วขึ้น และยังเป็นระบบที่ช่วยลดระยะเวลาในการรักษา ทำให้การรักษาเสร็จเร็วขึ้นดี ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องมือจัดฟันแบบ Damon ให้มีความหลากหลายของเครื่องมือยิ่งขึ้นมาว่าจะเป็นขนาด รูปร่าง หรือความสวยงามของเครื่องมือ ได้แก่
- Damon Q ซึ่งมีขนาดของเครื่องมือที่เล็กกว่าเครื่องมือ Damon แบบเดิม
- Damon Clear เป็นชนิดที่ช่วยเรื่องความสวยงามของเครื่องมือ ทำให้มองเห็นไม่ชัด หรือมองไม่เห็นเครื่องมือขณะจัดฟันอยู่
ประโยชน์ของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon
- การรักษาที่เร็วขึ้น
- ไม่ต้องถอนฟันโดยไม่จำเป็น
- สบายกว่า โดยปราศจากแรงดึงแน่นในปาก
- ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย
- มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันมีแรงเสียดทานของเครื่องมือน้อย
ประโยชน์ของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon Q
- การรักษาที่เร็วขึ้น
- สบายกว่า โดยปราศจากแรงดึงแน่นในปาก
- ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย
- มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันอย่างมาก
- ลดการระคายเคืองของเครื่องมือและลดการเสียดสีของเครื่องมือกับภายในช่องปากเนื่องจากเครื่องมือมีขนาดเล็กกว่าเครื่องมือ Damon ปกติ
ประโยชน์ของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon Clear
- การรักษาที่เร็วขึ้น
- สบายกว่า โดยปราศจากแรงดึงแน่นในปาก
- ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย
- มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันอย่างมาก
- ทำให้มองไม่เห็นเครื่องมือขณะจัดฟันอยู่ ทำให้ดูสวยงาม
- เครื่องมือมีสีใส
ข้อเสียของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon
- ควรดูแลเครื่องมือตามคำแนะนำ และพบทันตแพทย์ตามกำหนด เพื่อผลสำเร็จของการรักษา ตามกำหนด และหากเกิดความผิดปกติของเครื่องมือภายในช่องปาก ให้พบหรือปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อรักษาอาการผิดปกติเหล่านั้น
- หากมีอุปกรณ์หลุดหรือสูญหายอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในการเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวใหม่ให้แก่คนไข้
- เนื่องจากการออกแบบเครื่องมือที่ทำให้มาพบทันตแพทย์น้อยครั้งลง จึงต้องพยายามดูแลเครื่องมือให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อให้ประสิทธิ ภาพของเครื่องมือในการทำให้ฟันเคลื่อนตัวตามต้องการ รวมถึงทำความสะอาดได้เหมาะสม
- ต้องการความร่วมมือจากผู้ที่มาจัดฟันมากตั้งแต่การทำความสะอาดเนื่องจากความซับซ้อนของเครื่องมือที่เป็นบานปิดเปิด ทำให้ไวต่อการเกิดหินปูนหากคนไข้ไม่รักษาความสะอาดให้ดี ซึ่งทำให้การเปิดเข้าออกของเครื่องมือทำได้ยากมากและนอกจากนี้ระบบนี้มีการใช้ยางelastic ค่อนข้างบ่อย เพื่อลดการถอนฟัน ผู้ป่วยต้องเปลี่ยนยางทุกวันและใส่ยางบ่อยๆ หากไม่ใส่จะไม่ไดผลการักษาจัดฟันที่ดีจึงต้องการความร่วมมือจากผู้ป่วยค่อนข้างมาก
ระยะเวลาในการรักษา
- โดยปกติแล้ว จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีขึ้นไป ในการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพฟัน และโครงสร้างฟันของแต่ละคน ดังนั้นระยะเวลาจึงอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้กำหนดและดูแลเรื่องนี้